ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การฝึกฝนความมีสติ (Mindfulness) ได้ถูกนำเข้ามาใช้ในที่ทำงานและกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาองค์กรและผู้นำ ความมีสติซึ่งมีประวัติความเป็นมายาวนานนับพันปี ได้พัฒนาขึ้นในหลายวัฒนธรรมทั้งในตะวันออกและตะวันตก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการลดความเครียด เสริมสร้างสุขภาวะที่ดี และปรับปรุงความสัมพันธ์ในที่ทำงาน โดยหลักการของความมีสติเน้นการมุ่งเน้นที่ปัจจุบัน ความตระหนักในตัวเอง และการตอบสนองอย่างตั้งใจแทนที่จะเป็นการปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติ
ความหมายของความมีสติ
Jon Kabat-Zinn ผู้ก่อตั้งคลินิก Mindfulness-Based Stress Reduction ที่ University of Massachusetts Medical School ให้คำจำกัดความความมีสติว่า “การให้ความสนใจในทางที่เฉพาะเจาะจง โดยตั้งใจ อยู่ในปัจจุบัน และไม่ตัดสิน” นอกจากนี้ความมีสติยังมีคุณสมบัติเช่น ความเมตตา การยอมรับ และความกรุณา รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ เช่น:
– การให้ความสนใจ: การมุ่งเน้นความสนใจทั้งหมดไปยังสิ่งที่กำลังทำอยู่ในขณะนั้น
– การไม่ตัดสิน: สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่สรุปว่าดีหรือไม่ดี
– ความอดทน: ไม่รีบเร่งสู่ข้อสรุปหรือการกระทำ แต่รอดูสิ่งต่างๆ ตามที่มันเกิดขึ้น
– การอยู่ในปัจจุบัน: รู้ถึงสิ่งที่เป็นอยู่ในขณะนั้น โดยไม่มุ่งไปในอดีตหรืออนาคต
– การไม่ตอบสนองอัตโนมัติ: การตัดสินใจตอบสนองต่อประสบการณ์อย่างตั้งใจ ไม่ใช่เพียงแค่ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเอง
– ประโยชน์ของความมีสติที่ได้รับการยืนยันจากการวิจัย
การวิจัยเกี่ยวกับความมีสติแสดงให้เห็นว่าการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอสามารถส่งผลดีต่อสุขภาพทั้งทางกายและจิตใจ เช่น ลดระดับของภาวะซึมเศร้า ลดความเครียด ลดความเจ็บปวด และปรับปรุงการทำงานของสมอง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มทักษะด้านการให้ความสนใจ ความจำ และความคิดสร้างสรรค์ ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า การเข้ารับการฝึกอบรมความมีสติเป็นเวลา 9 สัปดาห์ สามารถเพิ่มความกรุณาและลดความกังวลในผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้
นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า การฝึกฝนความมีสติส่งผลเชิงบวกต่อพฤติกรรมในที่ทำงาน เช่น การปรับปรุงการสื่อสาร เพิ่มความเห็นอกเห็นใจ และลดการแสดงออกของความก้าวร้าว นอกจากนี้ความมีสติยังช่วยให้พนักงานสามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนได้ดีขึ้น
ความมีสติในสถานที่ทำงาน
การนำความมีสติเข้ามาใช้ในที่ทำงานถือเป็นวิธีที่มีต้นทุนต่ำในการปรับปรุงผลผลิตและสุขภาพของพนักงาน หลายบริษัทเช่น Google, Apple, และ Unilever ได้นำโปรแกรมการฝึกฝนความมีสติมาใช้เพื่อพนักงาน และผลลัพธ์ที่ได้คือพนักงานมีความสามารถในการทำงานดีขึ้น มีการจัดการความเครียดดีขึ้น ความสัมพันธ์ในที่ทำงานดีขึ้น และการลางานลดลง
บริษัท Green Mountain Coffee Roasters (GMCR) ยังมีศูนย์ Mindfulness Center สำหรับพนักงาน ซึ่งช่วยให้บริษัทประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดหุ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การฝึกฝนความมีสติช่วยพัฒนาการสื่อสารทางอารมณ์ของพนักงานและเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันเป็นทีม ซึ่งนำไปสู่ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น
ภาวะผู้นำที่มีสติ
การเป็นผู้นำที่มีสติไม่ได้เน้นเพียงแค่การทำงานให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างความตระหนักรู้ในตนเองและการจัดการตนเองให้ดีขึ้น ผู้นำที่มีสติจะมุ่งเน้นไปที่การตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ อย่างตั้งใจและสามารถจัดการกับ “ความเครียดจากอำนาจ” ซึ่งมักเกิดจากการต้องตัดสินใจในสถานการณ์ที่กดดัน การฝึกฝนความมีสติจะช่วยให้ผู้นำสามารถรับมือกับความเครียดและอารมณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น และนำไปสู่การตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Michael Carroll ผู้เขียนหนังสือ The Mindful Leader ชี้ให้เห็นว่าการนำความมีสติเข้ามาในองค์กรสามารถช่วยฟื้นฟูวัฒนธรรมองค์กรที่มีความเป็นพิษ ลดความเครียด และสร้างความกล้าหาญและความมั่นใจในการรับมือกับความท้าทายในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน
นอกจากนี้ Daniel Goleman ผู้เขียนหนังสือ Primal Leadership กล่าวว่าผู้นำควรเริ่มต้นจากการรู้จักและจัดการตัวเอง ซึ่งต้องใช้เวลาในการสะท้อนและพิจารณาตนเองอย่างลึกซึ้ง หากผู้นำขาดการฝึกฝนความมีสติ พวกเขาอาจมีแนวโน้มที่จะทำงานอย่างไร้ทิศทางและขาดการตัดสินใจที่มีเหตุผล
คุณสมบัติของผู้นำที่มีสติ
จากประสบการณ์ในการฝึกอบรมผู้บริหารและการศึกษาวิจัย พบว่าผู้นำที่มีสติจะแตกต่างจากผู้นำทั่วไปในหลายด้าน ได้แก่:
– การมีความตระหนักรู้ในตนเองและการจัดการตนเองอย่างลึกซึ้ง
– การตอบสนองต่อเหตุการณ์ภายนอกอย่างตั้งใจแทนที่จะเป็นการตอบสนองแบบอัตโนมัติ
– การมีความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับเปลี่ยนแผนอย่างรวดเร็วโดยไม่ยึดติดกับอัตตา
– การนำองค์กรด้วยความอ่อนโยนและปัญญา แทนที่จะใช้ความทะเยอทะยานหรือการผลักดันอย่างไม่หยุดยั้ง
– การฝึกฝนการฟังอย่างเห็นอกเห็นใจและคิดถึงความรู้สึกของผู้อื่น
– การแสดงความอ่อนโยนและความเมตตาอย่างสม่ำเสมอ
– การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมความกตัญญูและการให้อภัย
การฝึกฝนความมีสติมีประโยชน์อย่างชัดเจนทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน การนำความมีสติเข้ามาใช้ในองค์กรสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในการปรับปรุงความเป็นอยู่ของพนักงาน ลดความเครียด และเสริมสร้างผลผลิต การเป็นผู้นำที่มีสติไม่เพียงแค่จะช่วยให้การตัดสินใจดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ทุกคนสามารถเจริญเติบโตได้
________________________________________________________
เตรียมตัวพบกับประสบการณ์การเรียนรู้ระดับโลกในงาน THAILAND HR DAY 2024
วันที่จัดงาน: 26-27 พฤศจิกายน 2024
สถานที่จัดงาน: Centara Grand at Central Plaza Ladprao Bangkok
งานประชุมสุดยิ่งใหญ่ที่จะพาคุณก้าวสู่โลกแห่งการบริหารคนและองค์กร ภายใต้ธีม High-Performing Business Leaders & HR: Speed, Purpose and Performance
ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ได้ที่: https://forms.gle/vyyJLgeim6S7yNkM8